สวนน้ำ"ตรังเอฟซีไพเรทส์ปาร์ค"

Details

Published on Wednesday, 29 June 2016 12:22

Hits: 9115

"ตรังเอฟซี" จับมือ "กลุ่มไพเรทส์กรุ๊ป" ทุ่มกว่า 100 ล้าน ผุดสวนน้ำบนพื้นที่กว่า 25 ไร่ใจกลางเมืองตรัง เน้นการจัดการระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 3-4 หมื่นคนต่อวัน เปิดให้บริการปลายสิงหาคมนี้ มั่นใจคุ้มทุนได้ภายใน 2 ปี

"ตรังเอฟซี" จับมือ "กลุ่มไพเรทส์กรุ๊ป" ทุ่มกว่า 100 ล้าน ผุดสวนน้ำบนพื้นที่กว่า 25 ไร่ใจกลางเมืองตรัง พร้อมการให้บริการครบวงจรแบบ One Stop Service เน้นการจัดการระบบน้ำที่มีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 3-4 หมื่นคนต่อวัน เปิดให้บริการปลายสิงหาคมนี้ มั่นใจคุ้มทุนได้ภายใน 2 ปี

นายธวัช อุยสุย ประธานสโมสรตรัง เอฟ ซี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ทางสโมสรตรัง เอฟ ซี ได้ร่วมทุนกับกลุ่มไพเรทส์กรุ๊ป กว่า 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างสวนน้ำตรังเอฟซี ไพเรทส์ปาร์ค บนพื้นที่กว่า 25 ไร่ ภายในบริเวณตลาดชินตา ของนายชาลี กางอิ่ม อดีตนายกเทศมนตรีนครตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองตรัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยเดิมทีจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ แต่เนื่องจากเข้าสู่ช่วงหน้าฝน จึงเลื่อนไปเปิดดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนสิงหาคม 2559 นี้อย่างแน่นอน

นายธวัชบอกอีกว่า สำหรับการก่อสร้างสวนน้ำจองกลุ่มไพเรทส์กรุ๊ปนั้นดำเนินการสร้างสวนน้ำพร้อมกัน 3 แห่ง คือ ที่ตรัง ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งทั้ง 3 แห่ง จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกันแต่จะมีความแตกต่างในด้านของอุปกรณ์สวนน้ำ และงบประมาณที่ลงทุนก็จะใกล้เคียงกัน โดยสุราษฎร์ฯเปิดให้บริการไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ จากนั้นก็จะเปิดที่ตรัง และที่หาดใหญ่ ตามลำดับต่อไป

"การก่อสร้างสวนน้ำทั้ง 3 แห่งดังกล่าว ในส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะดูแลพื้นที่และให้บริการใน จ.สุราษฎร์ฯ พังงา ชุมพร และระนอง ส่วนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้บริการและดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนจังหวัดตรัง นอกจากดูแลและให้บริการในตรัง แล้ว ยังดูแลพื้นที่และให้บริการในพื้นที่ จ.กระบี่ นครศรีธรรมราช และสตูลด้วย ทั้งนี้ ทุกแห่งจะเน้นการบริหารจัดการน้ำที่เป็นระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกลุ่มไพเรทส์ฯ จะมีความชำนาญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของน้ำเสียแต่อย่างใด" นายธวัชกล่าว

นายธวัชกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเป็นการให้บริการแบบ One Stop Service ซึ่งนอกจากจะสนุกสนานกับสวนน้ำที่มีมาตรฐานสากลแล้ว ภายในยังจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จอดรถที่กว้างขวาง สถานที่ล้างรถ ห้องอาหาร ห้องสัมมนา ลานคอนเสิร์ต ร้านจำหน่ายสินค้านานาชนิด ลานบันเทิง ที่จะมีการจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินดารานักร้องจากทั่วฟ้าเมืองไทย มาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้ความบันเทิงกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทางสวนน้ำยังมีการเปิดหลักสูตรการว่ายน้ำสำหรับเด็กและเยาวชน เปิดให้เป็นแหล่งทัศนศึกษาดูงานสำหรับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ต่อไปจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดตรัง ที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการได้เป็นจำนวนมาก โดยมีการตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไม่น้อยกว่าเดือนละ 30,000-40,000 คน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ใครมาเที่ยวตรังจะต้องแวะมาเที่ยว เพราะกระแสการท่องเที่ยวสวนน้ำกำลังมาแรงและมีการแข่งขันกันมาก          

"สำหรับการบริหารจัดการสวนน้ำนั้นได้มีการวางแผนในระยะยาวไว้แล้วคือหลังจากสร้างเสร็จทั้ง 3 แห่ง จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเครื่องเล่นภายในสวนน้ำระหว่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซาก และนักท่องเที่ยวก็จะได้เล่นเครื่องเล่นใหม่ๆ แปลกตา ที่จะสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างไม่รู้เบื่อ ผมมั่นใจว่าสวนน้ำตรัง เอฟ ซี ไพเรทส์ปาร์ค จะสร้างประโยชน์ให้กับชาวตรังในทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างระบบหมุนเวียนเศรษฐกิจให้แก่จังหวัดซึ่งประโยชน์โดยตรง ที่จะได้รับคือการจ้างงาน 80 อัตรา รปภ.10 อัตรา และร้านค้าอีกกว่า 20 ร้านค้าในสวนน้ำ สโมสรตรัง เอฟ ซี จะเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะพยายามสร้างโอกาสในมิติต่างๆ ให้กับบุคคลทุกกลุ่ม ทุกเพศและทุกวัย ซึ่งผมมั่นใจว่าสวนน้ำที่ตรังจะมีนักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวตามเป้าที่วางไว้ และคาดว่าภายในระยะเวลา 2 ปี จะถึงจุดคุ้มทุนอย่างแน่นอน" นายธวัชกล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์