ปะการังฟอกขาว...ที่เจ้าไหม

 

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เผย สำรวจพบปะการังฟอกขาวในทะเลตรังอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นประมาณ 80% ของพื้นที่ปะการังทั้งหมดในเขตอุทยานฯ ขณะที่อุณหภูมิน้ำพุ่งสูงขึ้นเป็น 33-34 องศา

 

 

ปะการังฟอกขาว...ที่เจ้าไหม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เผย สำรวจพบปะการังฟอกขาวในทะเลตรังอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นประมาณ 80% ของพื้นที่ปะการังทั้งหมดในเขตอุทยานฯ ขณะที่อุณหภูมิน้ำพุ่งสูงขึ้นเป็น 33-34 องศา

 

นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เปิดเผยว่า จากการดำน้ำลงสำรวจความเปลี่ยนแปลงของการเกิดปะการังฟอกขาวในทะเลตรังอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีการฟอกขาวเพิ่มขึ้นประมาณ 80% ของพื้นที่ปะการังทั้งหมดในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ขณะที่อุณหภูมิน้ำก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 33-34 องศา ทั้งบริเวณหน้าเกาะกระดาน บริเวณหน้าถ้ำไข่มุกดำ ที่เกาะแหวนและบริเวณด้านทิศเหนือของเกาะมุก นอกจากนั้นยังพบว่าหอยมือเสือ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาหอยมือเสือได้ลดน้อยไป จึงมีโครงการนำหอยมาปล่อยคืนสู่ทะเล ปรากฏว่าหอยมือเสือแต่ละตัวที่มีขนาดโต 40% ขึ้นไปได้เกิดการฟอกขาวขึ้นประมาณ 80 % เช่นเดียวกันจึงเป็นปัญหาที่จะต้องหาแนวทางในการช่วยเหลือหรือว่าเคลื่อน ย้ายหอยมือเสืออย่างเร่งด่วนต่อไป ขณะนี้ที่ทุกอุทยานทางทะเลทั่วประเทศรวมทั้งอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมจะต้องดำเนินการคือปฏิบัติตามคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์ พืชอย่างเคร่งครัดคือ ให้หยุดการใช้ประโยชน์และดำเนินการอย่างเข้มงวดในแนวปะการังทั้งหมด ดังนั้นจึงขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใช้พื้นที่ในแนวปะการัง เพื่อประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นต้องปล่อยให้ธรรมชาติต่อสู้กับธรรมชาติในส่วนนี้ไปก่อน

 

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวอีกว่า แต่อาจจะเป็นความโชคดีก็เป็นได้ที่ ขณะนี้สภาพคลื่นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังเข้ามา ก็อาจจะทำให้อุณหภูมิของน้ำลดต่ำลง ถ้าหากว่าลดต่ำลงแล้วสภาพการฟอกขาวของปะการังก็อาจจะดีขึ้น หรืออาจคงตัวอยู่แล้วหลังจากนั้นสภาพธรรมชาติก็อาจปรับตัวเอง ส่วนจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนไม่สามารถจะตอบได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของแนวปะการังแต่ละชนิดที่อาศัยอยู่ ส่วนหอยเมือเสือนั้นได้ปรึกษากับหลายหน่วยงานว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ศึกษา วิจัยทางวิชาการปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย คือ ส่วนหนึ่งที่ฟอกขาวแล้วไม่สามารถจะช่วยเหลือได้

 

ที่มาข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 มิ.ย. 2559

ภาพประกอบ : จากอินเตอร์เน็ต