“ธวัช”นั่งบอร์ดสมาคมฟุตบอล

Details

Published on Saturday, 13 February 2016 10:02

Hits: 1206

“ธวัช อุยสุย ” ประธานสโมสรตรัง เอฟซี ได้รับเลือกเป็น 1 ใน สภากรรมการบริหาร สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในยุค พ.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เตรียมผลักดันให้มีบริษัทลูกลีกภูมิภาคเพื่อสร้างรายได้ให้ลีกรากหญ้า

“ธวัช-ตรังเอฟซี” ติดนั่งบอร์ดสมาคมฟุตบอล

โดย อรุณ ลายดี

หลังจากการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พ.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมลูกหนังคนใหม่ไปด้วยคะแนนเสียง 62 เสียง ทิ้งห่างอันดับ 2 คือนายชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ได้เพียง 4 คะแนนเท่านั้น นอกจากการเลือกตั้งตำแหน่งนายกสมาคมแล้วยังมีการเลือกตั้งในตำแหน่งอุปนายกสมาคมอีก 5 ตำแหน่ง และตำแหน่งสภากรรมการอีก 13 ตำแหน่ง ซึ่งในส่วนของตำแหน่งสภากรรมการนั้นปรากฏว่านายธวัช อุยสุย หรือโกจ๋าย ประธานสโมสรตรัง เอฟซีได้รับเลือกด้วย

นายธวัช อุยสุย กล่าวถึงการได้รับเลือกเป็นสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ว่าเกิดจากการที่ในตำแหน่งสภากรรมการนั้นจะมีโควต้าให้ตัวแทนสโมสรจากลีกภูมิภาคทั่วประเทศ ภูมิภาคละ 1 คน รวม 6 คน ในส่วนของตนนั้นต้องขอขอบคุณบรรดาสโมสรในภาคใต้ที่ไว้วางใจให้เป็น 1 สภากรรมการ แต่ก็ต้องบอกว่าในภาคใต้นั้นมีการเคลื่อนไหวเพื่อทำการสนับสนุน พ.ต.อ.สมยศเป็นที่แรก ๆ มีการนัดประชุมของประธานสโมสรต่าง ๆ ในภาคใต้ เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งในที่ประชุมก็ไว้วางใจตนให้เป็นตัวแทนของสโมสรโซนภาคใต้

ประธานสโมสรตรัง เอฟซียังกล่าวต่อไปถึงแนวทางการทำงานในส่วนของตนนั้นอยากจะให้มีการจดทะเบียนสมาคมลีกภูมิภาคขึ้นโดยที่เปิดโอกาสให้สโมสรต่าง ๆ เข้ามาถือหุ้น จากนั้นก็จะมีบริษัทลูกในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้แต่ละภูมิภาคได้ไปบริหารจัดการกันเอง

“ต้องยอมรับทีมในระดับลีกภูมิภาคอำนาจการต่อรองกับบริษัทใหญ่ ๆ นั้นน้อยมาก ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ทีมระดับไทยลีก หรือ ดี 1 แต่ถ้าต่อไปในแต่ละภาคมีการจดทะเบียนเป็นบริษัทเวลาหาสปอนเซอร์ก็จะหาทีเดียวทั้งภาคแล้วค่อยมาแบ่งกัน ยกตัวอย่างเช่นภาคใต้เราไปขอสปอนเซอร์ทีเดียว สินค้าของเขาก็จะได้ประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ชุมพรลงไปถึงนราธิวาสป้ายในสนามก็จะมีเหมือนกันทุกสนาม รายได้ก็นำมาแบ่งกัน การแพ้ – ชนะก็เป็นส่วนเกมกีฬาไป ด้านสิทธิประโยชน์เราต้องร่วมมือกันถึงจะเกิดอำนาจต่อรองเพื่อความมั่นคงของแต่ละสโมสร” นายธวัชกล่าว