นิทรรศการชีวิต ลิขิตไวับนผืนผ้า ครูภูมิปัญญา ผ้าทอนาหมื่นศรี กุศล นิลลออ

"นิทรรศการชีวิต ลิขิตไวับนผืนผ้า ครูภูมิปัญญา ผ้าทอนาหมื่นศรี กุศล นิลลออ”

1-4 มิ.ย.นี้ ที่ลานวัดควนสวรรค์ บ้านควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง

 

 

"นิทรรศการชีวิต ลิขิตไวับนผืนผ้า ครูภูมิปัญญา ผ้าทอนาหมื่นศรี กุศล นิลลออ”

1-4 มิ.ย.นี้ ที่ลานวัดควนสวรรค์ บ้านควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง

THE SAVIOUR OF NA MUEN SRI TEXTILE  FROM TRANG PROVINCE

30 May-4 June 2017 at Bankonsawan NA MUEN SRI Trang.

...

เรื่อง/ภาพ : จำนง ศรีนคร

...

                หากพูดถึงจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นจังหวัดเล็กๆชายฝั่งอันดามันอันแสนสงบ แต่คงไว้ซึ่งรากฐานทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ผูกติดยึดโยงกับทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และได้รับผลกระทบจากกระแสทุนนิยมไม่มากนักเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆที่เจริญรุดหน้านำไปมาก

                เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดตรัง ในแง่รากฐานทางวัฒนธรรม ประกอบไปด้วย ภูเขา ทุ่งนา และ ทะเล สำหรับวัฒนธรรมทุ่งนา เรียกว่า “ตรังนา” นั้นสืบทอดกันมาจนนับอายุไม่ได้ หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่า ตรังมีพื้นที่ทำนากว้างใหญ่ไพศาลที่เรียกว่า “ลุ่มน้ำคลองนางน้อย” ซึ่งเป็นเสมือนสายโลหิตหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนชาวตรังในยุคก่อร่างสร้างเมือง เป็นจุดเริ่มต้นของงานกสิกรรมของ “ตรังนา” เป็นจุดเริ่มต้นของประเพณี ศิลปะวัฒนธรรม โดยเฉพาะกิจการงานศาสนา วัดในยุคแรกๆของจังหวัดตรังเกิดขึ้นบนลุ่มน้ำอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้

                รวมทั้งผ้าทอพื้นเมืองโบราณ ที่เรียกขานกันว่า “ผ้าทอนาหมื่นศรี” ซึ่งเก่าแก่ด้วยภูมิปัญญายาวนานจนสืบความไม่ได้ ผ้าทอนาหมื่นศรีในอดีต เป็นการทอผ้าของเหล่าแม่บ้านที่ว่างเว้นจากการทำนา ทำสวนยาง ทอไว้ใช้เอง ทำเป็นอาชีพเสริม ในยุคที่ผู้คนผูกพันธ์กับผืนนา วัด และโรงเรียน ชุมชนบ้านควนสวรรค์จึงเป็นชุมชนพื้นบ้านที่สืบทอดมาจนปัจจุบัน ไม่กลายกลับทางวัฒนธรรมมากนักแม้จะมีที่ตั้งห่างจากตัวเมืองตรังเพียง 8 กิโลเมตร

                “ผ้าทอนาหมื่นศรี” จึงเป็นผ้าทอสัญลักษณ์ของการรวมจิตรวมใจของผู้คนลุ่มน้ำคลองนางน้อย เป็นการถักทอสายใยรักไว้บนผืนผ้า คนนาหมื่นศรีจะใช้ผ้าทอในโอกาสสำคัญๆต่างๆ แยกตามประเภทงาน อาทิ งานบวช งานแต่ง ไปจนกระทั่งงานศพ เป็นชุมชนผ้าทอที่ผูกติดกับวิถีชีวิตและจิตวิญญานโดยแท้จริง

                “นาหมื่นศรี” มี “ครูภูมิปัญญาผ้าทอ” หลายท่าน ที่มีส่วนสำคัญในการต่อลมหายใจอนุรักษ์สืบทอดภูมิปัญญาอันทรงค่านี้ เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งครู ของคนในชุมชนให้ร่วมสืบสานปณิธานบรรพชุน แม้ปัจจุบันครูภูมิปัญญาเหล่านี้จะล่วงลับไปแล้วหลายท่าน แต่มรดกทางวัฒธรรมนี้ ยังคงสืบทอดต่อกันจากรุ่นสู่รุ่นเรื่อยมา

                และในวันนี้ เนื่องด้วย “คุณยายกุศล นิลลออ” อายุ 88 ปี ครูภูมิปัญญาผ้าทอนาหมื่นศรี ปราชญ์ชาวบ้านบ้านควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา ณ วันอังคารที่ 2 พ.ค. 2560 เวลา 11.50 น. โดยได้มีพิธีรดน้ำศพเวลา 18.00 น. ณ บ้านหน้าโรงเรียนบ้านควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรังในวันเดียวกันไปแล้วนั้น ทางลูกหลานซึ่งเป็นเจ้าภาพรวมทั้งศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกำหนดวันบำเพ็ญกุศลศพ ระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-4 มิ.ย. 2560 ณ วัดควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ก่อนเคลื่อนศพสู่เมรุ ณ วัดควนสวรรค์ในวันที่ 5 มิถุนายน 2560 โดยยกศพเวลา 13.00 น. จึงขอกราบเรียนเชิญ เพื่อทราบโดยทั่วกัน

                ในงานศพของคุณยายกุศลครั้งนี้ จึงมีการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชุมชน เพื่อจัด “นิทรรศการชีวิต” เพื่อเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของ “ผ้าทอนาหมื่นศรี” และเพื่อเชิดชูเกียรติของครูผ้าทอ ซึ่งไม่ได้มีเพียงคุณยายกุศลเพียงคนเดียว

                พบกับ  LIVE EXHIBITION

            THE SAVIOUR OF NA MUEN SRI TEXTILE  FROM TRANG PROVINCE

            "นิทรรศการชีวิต ลิขิตไวับนผืนผ้า ครูภูมิปัญญา ผ้าทอนาหมื่นศรี กุศล นิลลออ”

            30 May-4 June 2017 at Bankonsawan NA MUEN SRI Trang.

                ณ ลานวัดควนสวรรค์ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม-4 มิถุนายนนี้

 

พบกับ...

 

-ชีวประวัติครูภูมิปัญญาผ้าทอนาหมื่นศรี ครูกุศล นิลลออ

-ทำเนียบครูภูมิปัญญาผ้าทอนาหมื่นศรี จากอดีตถึงปัจจุบัน

-39 ลายผ้าโบราณ ที่เคยหายไปจากนาหมื่นศรี เป็นการตามหาลายผ้าโบราณที่หายสาบสูญไปจากนาหมื่นศรี นำกลับมาแกะลายและทอขึ้นใหม่จำนวน 39 ลาย 39 ชิ้น เพื่อจัดแสดงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกโดย โครงการตามลายผ้ากลับนาหมื่นศรี กระทรวงวัฒนธรรม

-สานสายใยรักสามัคคี การทอผ้าลายเดียว ผืนเดียวกัน แบบสดๆภายในงาน โดยกลุ่มวิสากหกิจผ้าทอนาหมื่นศรี ร่วมแรง และ ร่วมใจ

-การจำลองบรรยากาศวิถีลุ่มน้ำคลองนางน้อย จัดแสดง ลูกลมตำนานบุตรแห่งพระพาย วิถีนา ครกสีข้าว ครกตำข้าว อุปกรณ์ประมงน้ำจืดพื้นบ้าน

-ไฮไลท์แสงสีเสียงการละเล่นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่คุณต้องประทับใจ ในคืนวันที่ 4 มิถุนายน

-การแสดงแบบจำลองเรือนพื้นถิ่น ลุ่มน้ำคลองนางน้อย โดย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง

-หนังสืออนุสรณ์ ครูผ้า กุศล นิลลออ

และอื่นๆ อีกมากมาย...

                ร่วมสานสายใยรัก ที่ถักทอ ส่งท้ายก่อนร่วมตั้งจิตอธิษฐานส่งครูผ้าทอไปพักผ่อน ทอผ้าที่รักบนท้องฟ้า ในวันที่ 5 มิถุนายน ณ เมรุวัดควรสวรรค์

...

 

ประวัติ นางกุศล นิลลออ ครูภูมิปัญญาไทย ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม

                ครูกุศล นิลลออ เป็นผู้สืบทอดการทอผ้านาหมื่นศรีอันเป็นผ้าทอพื้นเมืองที่แสดงถึงภูมิปัญญาของชาวตำบลนาหมื่นศรีมาแต่โบราณ การได้เห็นและฝึกปฏิบัติจากมารดาอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอดทำให้เกิดความผูกพันและเป็นแรงบันดาลใจอย่างสำคัญที่จะสืบทอดการทอผ้านาหมื่นศรีให้คงอยู่สืบไป

 

การศึกษา ชีวิต และการทำงาน

                ครูกุศล เกิดในครอบครัวเกษตรกร บิดามารดามีอาชีพทำนา ทำสวนยาง ชีวิตในวัยเด็กอยู่ท่ามกลางควาาอุดมสมบูรณ์ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ชาวนาปลูกข้าวทำนาและทอผ้าใช้เอง เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านควนสวรรค์แล้วไม่ได้เรียนต่อหากแต่ช่วยบิดามารดาทำนาและช่วยมารดาทอผ้า มารดาของครูกุศลคือ นางนาง ช่วยรอด ซึ่งสืบทอดการทอผ้านาหมื่นศรี อันเป็นผ้าทอพื้นเมืองที่แสดงถึงภูมิปัญญาของชาวตำบลนาหมื่นศรีเป็นเวลานานนับร้อยปี การได้เห็นและฝึกปฏิบัติจากมารดาทำให้เกิดความผูกพันและเป็นรแงบันดาลใจที่สำคัญยิ่งที่จะสืบทอดการทอผ้านาหมื่นศรีให้คงอยู่สืบไป

                ที่มาของความรักความสนใจผ้าทอนาหมื่นศรีเริ่มจากการที่นางนาง ช่วยรอดมารดซึ่งขณะที่อายุ ๗๘ ปี เห็นว่าตนเองชราแล้วอยากให้ลูกหลานได้ดูวิธีการทอผ้าแบบโบราณซึ่งเรียกกันว่า "ผ้าทอกี่พื้นบ้าน" จึงได้รวบรวมกลุ่มสมาชิกอายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่เคยทอผ้าด้วยกันมา นำกี่ทอผ้าและเครื่องมือที่เก็บไว้สมัยก่อนออกมาซ่อมแซมจนใช้การได้ และเริ่มทอผ้าเป็นรูปแบบต่างๆ ทั้งทอเป็นผ้าถุงและผ้าหม่ ในช่วงแรกไม่มีใครสนใจจนกระทั่งครูกุศล เห็นมารดาและกลุ่มทอผ้าอยู่ เกิดความสนใจและหัดทอทุกวันอย่างจริงจังจนทอได้ มารดาเห็นว่าเป็นคนจริงจังจึงได้ถ่ายทอดวิธีการทอผ้าทุกอย่างให้ทั้งผ้าทอแบบธรรมดาและผ้าทอลายดอกต่างๆ จนสามารถทอได้อย่างชำนาญทุกลาย เป็นที่สนใจของชาวบ้านที่เข้ามาดูมาศึกษาและเรียนรู้การทอไปด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ พัฒนากรอำเภอเมืองตรังเห็นว่าผ้าทอของครูกุศล สวยงามผิดแผกจากผ้าทอที่มีอยู่ในท้องตลาดควรจะนำมาพัฒนาเป็นอาชีพของชาวบ้านได้ จึงได้ชักนำชาวบ้านให้มารวมกลุ่มเพื่อพัฒนาการทอผ้าขึ้น ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ กรมพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย เห็นว่าผ้าทอนาหมื่นศรีมีการปรับปรุงลักษณะและวิธีการดำเนินงานสามารถให้การบริการทางวิชาการแก่สตรีทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง จึงเปิดดำเนินการในลักษณะ "ศูนย์ฝึกอาชีพทอผ้า" ขึ้นเรียกว่า "ศูนย์ฝึกอาชีพทอผ้า ตำบลนาหมื่นศรี" ต่อมาผ้าทอนาหมื่นศรีได้กระจายไปในจังหวัดใกล้เคียง เช่น กลุ่มทอผ้าท่าสะบ้า จังหวัดตรัง กลุ่มทอผ้าบ้านควนดินแดน จังหวัดพัทลุง และกลุ่มทอผ้าตำบลท่าขึ้นจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น

 

การเรียนรู้

                ครูกุศลเป็นผู้รักและซึมซับความงามของผ้านาหมื่นศรีมาแต่เยาว์วัย จากการที่ได้คลุกคลีเรื่องการทอผ้าจากมารดาทำให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาและความสำคัญของผ้านาหมื่นศรี ซึ่งมารดาเล่าให้ฟังว่ามีการทอสืบต่อกันมานับร้อยปีหลายชั่วอายุคน เป็นการทอเพื่อใช้สอยในครัวเรือน หากมีเหลือก็ส่งขายหมู่บ้านใกล้เคียง การทอได้หยุดชะงักไปเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ สอง หลังจากนั้นชาวบ้านก็หันไปนิยมผ้าที่ทอจากเครื่องจักร ราคาถูกซื้อง่ายทำให้ผ้านาหมื่นศรีนั้นไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนในชุมชนอีกต่อไป ประกอบกับการทอผ้านาหมื่นศรีนั้นสัมพันธ์กับประเพณีความเชื่อทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านนาหมื่นศรีทั้งในเรื่องของการทอเพื่อใช้ในงานมงคลและงานศพ ดังนั้นหากไม่มีการสืบทอดไว้ เอกลักษณ์ความเป็นบ้านนาหมื่นศรีก็จะถูกลบเลือนไปในที่สุด

 

ครูกุศล เริ่มด้วยการอนุรักษ์ลวดลายเฉพาะตัวของผ้าทอนาหมื่นศรี อันได้แก่

ลายลูกแก้ว            ลายลูกแก้วชิงดวง            ลายลูกแก้วโข่ง

ลายลูกแก้วสี่เม็อ     ลายดอกจัน                    ลายเกสร

ลายดอกกก           ลายดาวล้อมเดือน            ลายดอกพิกุล

ลายราชวัตร           ลายรูปสัตว์                     ลายเม็ดแตง

ลายครุฑ               ลายตาสมุก(ลายเกล็ดเต่า) ลายตาหมากรุกย่าน

 

                จากนั้นนำมาพัฒนาขึ้นเป็นลวดลายใหม่ เช่น ลายลูกแก้วย่าน ลายลูกโซ่ ลายหมากรุกย่าน เป็นต้น    นอกจากนี้ยังได้ทดลองย้อมสีผ้าจากสีธรรมชาติเช่น จากเปลือกเงาะ ใบมะม่วง หิมพานต์ เปลือกสะตอ กระถิน ต้นยอ เป็นต้น ทำให้ผ้าทอนาหมื่นศรีเริ่มเป็นที่นืยมมากขึ้น แพร่กระจายไปสู่ตลาดภายนอกและส่งไปจำหน่ายทั่วไป จากเดิมซึ่งเป็นผ้าที่ไม่อยู่ในความนิยมของผู้ใช้ได้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเป็นแรงบันดาลใจให้มีการรวมกลุ่มแม่บ้านทอผ้าชนิดนี้มากขึ้นตามลำดับ เรียกได้ว่าทุกหมู่บ้านจากตำบลนาหมื่นศรีเป็นสมาชิกกลุ่มทอผ้าของครูกุศลทั้งสิ้น ครูกุศลเองก็เป็นแกนนำในการทำงานระบบกลุ่มนำกลุ่มไปสู่ระบบธุรกิจชุมชน สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวให้แก่ชุมชนได้อย่างกว้างขวาง

...

“หมื่นศรีและหมื่นเส้น  มาสอดสร้างสลับสี

นานเนิ่นเกินร้อยปี  นาหมื่นศรีสร้างตำนาน

ลวดลายเอกลักษณ์  ประกาศศักดิ์ศิลป์พื้นบ้าน

ทอรักถักวิญญาณ  สานคุณค่าผ้าเมืองตรัง”

ประพันธ์โดย อาจารย์สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัง

...

ขอบคุณ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง , วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี , คณะลูกหลานคุณยายกุศล นิลลออ , อาจารย์สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง , โครงการตามลายผ้ากลับนาหมื่นศรี กระทรวงวัฒนธรรม , สำนักงานจังหวัดตรัง , อบจ.ตรัง , อบต.นาหมื่นศรี , ศูนย์ส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ , ศูนย์วิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลศรีวิชัยตรัง , คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง , โครงการจัดตั้งศูนย์ศิลปวัฒนธรรมราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลศรีวิชัยตรัง , โรงเรียนบ้านควนสวรรค์ , โรงเรียนไทรงาม

..