Help dogs & cats Trang เรื่อง หมาๆแมวๆ ในเมืองเล็ก

 

 

“ไม่นานมานี้ผมมีเรื่อง "หมาๆ" ให้ต้องจัดการอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้รู้สึกประทับใจ สังคมโซเชี่ยลมีเดียของกลุ่มคนรักสัตว์กลุ่มเล็กๆในเมืองตรัง ที่ชื่อ “คนเลี้ยงหมาแมวเมืองตรัง” และแฟนเพจ Help dogs & cats Trang หลายคนแสดงความเป็นห่วง ช่วยติดต่อประสานงาน แม้ไม่รู้จักกัน แต่ก็ช่วยกันถึงขนาดหาเบอร์หมอกันมาให้เลยทีเดียว” 

 

Help dogs & cats Trang เรื่อง หมาๆแมวๆ ในเมืองเล็ก

เรื่อง/ภาพ : กองบรรณาธิการ www.addtrang.com

 

และเมื่อไม่กี่วันนี้เช่นกันหมาของรุ่นพี่คนหนึ่งหายออกไปจากบ้าน 2 ตัว ผู้คนจำนวนมากช่วยกันตามหาเท่าที่ตัวเองจะพอช่วยได้ รวมทั้งผู้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนในกลุ่ม “คนเลี้ยงหมาแมวเมืองตรัง” ก็เช่นกัน หลายคนเดินทางมาช่วยตามหา   สุดท้ายเหลือรอดมาเพียงตัวเดียว ส่วนอีกตัวเคราะห์ร้ายโดนรถชน

         

เรื่อง "หมาๆ" หลายๆเรื่องในช่วงนี้ สะท้อนความจริงของสังคมของคนรักสัตว์ ว่า “ทรงพลัง” และ “ยิ่งใหญ่” เพราะทุกคนมีน้ำใจ และช่วยเหลือกัน ทุกคนเห็นค่าชีวิตสัตว์ ไม่ต่างกับชีวิตคน ...แม้ในเมืองเล็กๆของเรา.. “เมืองตรัง”

         

ราว 3 ปีมาแล้ว สำหรับการรวมตัวกันอย่างจริงจังของเหล่าผู้รักสัตว์ในเมืองตรัง ด้วยการตั้งกลุ่มในเฟสบุ๊คชื่อ “คนเลี้ยงหมาแมวเมืองตรัง” เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลให้หมู่ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง  และขณะเดียวกัน สมาชิกในกลุ่ม 2 คน ได้แก่ “คุณเจ-กนกภักดิ์ สูวัฒนารัตน์” กับ “คุณเจี๊ยบ-จิรารัตน์ อ่อนอยู่” มีแนวคิดต่อยอดหลังจากได้มีโอกาสสัมผัสและเห็นแนวโน้มของ “หมาแมว” รวมถึงสัตว์เลี้ยงจรจัดใน “เมืองตรัง” ที่เพิ่มจำนวนขึ้นและถูกทอดทิ้งให้เจ็บป่วยและเร่ร่อนจนเกิดเป็นภาพที่น่าหดหู่ ถูกรังเกียจจากหลายๆคน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอและกลุ่มผู้รักสัตว์อีกหลายคน แน่นอนการริเริ่มจากศูนย์ต้องอาศัยความมานะอดทนและความเสียสละ เธอทั้งสองได้ตั้งแฟนเพจ  Help dogs & cats Trang ขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ

         

“คุณเจ” เล่าว่า งานที่พวกเธอทำอยู่นี้เป็นงานสาธารณะ ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ โดยงานในช่วงแรกๆจะเป็นเรื่องของการช่วยกระจายข่าวและข้อมูลเพื่อหาบ้านให้เหล่าหมาแมวจรจัด ให้ได้ผู้มีปุปการะคุณรับไปดูแล เพื่อช่วยลดปริมาณสัวต์จรจัดในพื้นที่ชุมชน มีการจัดทำรายชื่อ บัญชีต่างๆในการทำงานเพื่อโพสแจ้งความคืบหน้าในเพจ

         

“พวกเราในเครือข่ายหลายคนก็ช่วยกัน สลับกัน ใครว่างตอนไหนก็มาทำงาน ตระเวณให้ข้าวให้น้ำหมาแมวตามที่ต่างๆ ที่มากที่สุดคงไม่พ้นวัด รองลงมาก็บริเวณรอบนอกของบ่อบำบัดน้ำเสียซึ่งเป็นคอกหมาแมวจรจัดของเทศบาล เพราะมีหลายตัวที่หนีออกจากคอกแล้วไปอาศัยอยู่ในป่าบริเวณนั้นไม่ยอมออกมา ในย่านตลาดสด แถวด้านหลังชุมชนสามร้อยห้องที่เป็นป่ารกก็มีมาก แถวศาลากลาง เราก็เข้าไปให้ข้าวให้น้ำ ตัวไหนเจ็บป่วยเราก็จะพยายามเอามารักษา โดยมีคุณหมอจากโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งช่วยค่ารักษาในอัตราของสัตว์จรจัด แต่ก็ทำได้จำนวนหนึ่ง เพราะบุคลากรก็จำกัด ทุนก็จำกัด”

         

ขณะที่ “คุณเจี๊ยบ” เสริมว่า เวลามีเคสหมาแมวที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น ป่วยอาการหนัก เราก็จะโพสภาพและรายละเอียดที่ต้องการความช่วยเหลือ นค่ายา ค่าผ่าตัด ก็จะมีคนบริจาคเข้ามา มาจากต่างจังหวัดก็มี พวกดาราโทรมาเองเลยก็มีอย่าง “คุณหนุ่ม-คุณเมย์ กำเนิดพลอย”  โทรมาสอบถามด้วยตัวเอง รวมทั้ง “คุณอั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ”  “คุณโย-ยศวดี หัสดีวิจิตร” และ  “คุณเก๋-ชลลดา เมฆราตรี” ที่ทำงานด้านคุ้มครองสิทธิสัตว์ก็ติดต่อขอให้ความช่วยเหลือ  แม้แต่คนทั่วไปมีจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจ มียายแก่ๆคนหนึ่งบริจาคเดือนละ 500 บาททุกเดือน ยายโทรมาบอกว่ายายเล่นเพสบุ๊คไม่เป็น แต่ก็พยายามติดตามตลอด เป็นเรื่องที่น่าประทับใจในน้ำใจของทุกๆคน ซึ่งทุกรายจ่ายจะมำการแสดงบัญชีแจกแจงอย่างละเอียดโพสในเพจ

         

“เราเคยรับไซบีเรียนโดยรถชนมาตัวหนึ่ง เจ้าของไม่ยอมเลี้ยงต่อ แต่น่าเสียดายที่น้องเขาไม่รอด แต่รู้ไหมว่าเงินบริจาคของไซบีเรียนตัวนั้น ได้ช่วยชีวิตเพื่อนหมาแมวของเขาได้อีกหลายตัว มันเป็นการส่งต่อชีวิตเลยทีเดียว แล้วยังมีเคสของน้องกี้เป็นหมาพันธ์ไทยที่โดนเจ้าของฟันมาอาการหนักมาก ทุกคนช่วยกันจนวันนี้ได้บ้านแล้ว แล้วเงินของน้องกี้ก็เหลือไปช่วยเพื่อนของเขาได้อีกหลายตัว” “คุณเจี๊ยบ" บอก

         

สาวน้อยทั้งสอง เล่าอีกว่า บางครั้งก็มีคำพูดเยาะเย้ยถากถางให้เสียกำลังใจ อย่างเช่น เวลาที่พวกเธอเอาข้าวเอาน้ำไปให้หมาแมวจรจัดตามที่ต่างๆ ก็จะมีชาวบ้านบางส่วนตำหนิเธอทำนองว่า “ไปให้ข้าวมันทำไม!” ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าในวิธีคิดของผู้คนที่ยังเหลืออยู่ในสังคม แต่พวกเธอต้องทำเป็นไม่ได้ยิน และทำงานกันต่อไป

         

นอกจากงานให้ข้าวให้น้ำหมาแมวตามที่ต่างๆแล้ว งานนักสืบอย่างการออกตามหาสัตว์เลี้ยงหาย หรือสำรวจสัตว์จรจัดที่เจ็บป่วย หรือกำลังตกอยู่ในภาวะอันตรายเช่น กำลังจะถูกทำร้ายหรือฆ่าทิ้ง ก็เป็นงานของพวกเธอ โดยก่อนหน้านี้การทำงานค่อนข้างลำบาก เพราะ Help dogs & cats Trang ไม่มีสถานที่ของตัวเองเพื่อเป็นแหล่งพักพิงสัตว์จรจัดเหล่านี้ ทำได้เพียงตระเวนให้ข้าวให้น้ำ หรือพบตัวไหนเจ็บป่วยก็เอาไปรักษาแต่ก็ต้องนำกลับมาปล่อยไว้ที่เดิม ทำให้การแก้ปัญหาทำได้ยาก และสัตว์จรจัดก็จะขยายพันธุ์ออกลูกออกหลานไปเรื่อยๆ

         

แต่เมื่อช่วยต้นปี 2557 ที่ผ่านมา ถือเป็นโชคดีที่ได้เจอกับ “น้าหวัด” ซึ่งเป็นชายสูงวัยผู้อยู่คลุกคลีกับวัดแห่งหนึ่งและมีจิตใจเมตตารักสัตว์ ช่วยดูแลสัตว์จรจัดของวัดและตามที่ต่างอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้เลยได้คอกพักพิงเล็กๆขนาด16x12 เมตร โล่งๆ แต่มีรั้วรอบขอบชิดไว้ให้หมาแมวจรจัดที่นำมารักษาหรือรอหาบ้านได้พักพิงชั่วคราว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ คร่าวๆ ณ วันนี้ก็ยังอาศัยกันค่อนข้างแออัดเกือบร้อยตัว แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย

         

“คุณเจ” บอกว่า ต้องขอบคุณวัดที่ออกเงินกั้นคอกให้ โดยพวกเราก็หาทุนมาทำโรงเรือนและหลังคาและได้รับความเมตตาจากเพจ “หมาจ๋า” ชื่อดัง ให้ลายเสื้อเรามาขายระดมทุน ก็สร้างโรงเรือนและหลังคาได้ แต่ภาระใหญ่ๆคือ บุคลากรที่จะมาลงแรงยังมีน้อย เพราะเราต้องการคนมาช่วยให้ข้าวให้น้ำ ตามจับหมา ล้างคอก ติดต่อประสานงานหาบ้าน ฯลฯ รวมทั้งทุนในการบริหารจัดการ เพราะในเดือนหนึ่งๆต้องใช้ทั้ง 1.ค่ารักษาพยาบาลเดือนละ 40,000 บาทขึ้นไป ขึ้นกับเคสหนักเบา และ 2.ค่าอาหาร เดือนละ5,000 บาทขึ้นซึ่งถือว่าประหยัดมากๆเพราะน้าหวัดหุงข้าวให้กินบ้าง

         

“ก็อยากฝากนะ ว่าปัญหาหมาแมวจรจัดนี้มีความสำคัญ เพราะหมาแมวไม่มีตัวไหนหรอกที่ไม่เคยมีเจ้าของมาก่อน แล้วถามว่าพวกหมาแมวเหล่านี้ต้องไร้บ้านออกมาเร่ร่อนเพราะอะไร ก็เพราะเจ้าของไม่เอา ไม่ดูแล ไม่ใส่ใจ ไม่เลี้ยงต่อ อยากให้คนที่คิดจะเลี้ยงสัตว์คิดให้ดีก่อนว่าเราพร้อมแล้วหรือยังที่จะรับผิดชอบอีกชีวิตหนึ่ง สัตว์เลี้ยงมันก็เหมือนลูก เลี้ยงแล้วก็ต้องรับผิดชอบ ทุกวันนี้มีแต่คนโทรมาแจ้งเราเหมือนเราเป็น 191 โยนทุกอย่างมา แต่อยากให้ทุกคนได้ช่วยกันก่อนเพราะเราก็ทำทั้งหมดไม่ไหว เริ่มที่เจ้าของเองต้องช่วยกันก่อน”

         

“หมาแมวตอนยังเล็กก็ตัวเล็กน่ารัก แต่พอโตแล้วคุณหลับไม่รักเพราะมันไม่น่ารักอย่างนั้นหรือ แต่อย่างไรถ้าไม่รัก ไม่เลี้ยงแล้ว ก็อย่าถึงขั้นไปทำร้ายมัน เพราะเราเจอหลายเคสที่สัตว์เลี้ยงปางตายเพราะเจ้าของทำร้าย ถึงขนาดเอามีดฟัน วางยาหมาตัวเองก็มี เรื่องสัตว์จรจัดต้องมีการจัดระบบ แต่ไม่ใช่จัดระบบด้วยการโยนซาลาเปาให้กินหรือไปฆ่าเขาทิ้งให้หมดๆไป”

         

วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการขยายพันธุ์พวกเธอบอกตรงกันว่า คือ “การทำหมัน” ซึ่งจะป้องกันได้ถาวร แต่มีค่าใช้จ่ายสูง เจ้าของจึงไม่นิยมทำ แต่หันไปใช้วิธีฉีดยาคุมซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่าฉีดได้ไม่เกิน 2 เข็มเท่านั้น เพราะมากกว่านั้นจะทำให้มดลูกของสัตว์อักเสบ แต่หมาบางตัวถูกฉีดไปเป็นสิบๆเข็ม

         

สำหรับภาพความทรงจำที่สลักลงในใจของคนทำงานกับหมาแมวอย่าง “คุณเจ” เธอบอกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอนำหมาน้อยไปคืนที่วัดสวัสดิ์ฯที่นาโยงหลังจากเอามันมารักษา มันถูกรถชนจนต้องตัดขาหน้าไปข้างหนึ่ง แต่เมื่อมันได้กลับบ้าน มันกลับเริงร่าสดใสราวกับไม่เคยเจ็บป่วยมาก่อน มันวิ่งวนไปทั่ววัดทั้งๆที่มีขาไม่ครบเพื่อไปทักทายเพื่อนหมาของทัน นี่คือใบเสร็จความสุขในการทำงานของเธอ ส่วนที่รู้สึกเสียใจก็มีเคสหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ push to sleep คือการทำ “การุณฆาต” ซึ่งเป็นเคสเดียวในระยะ 2 ปีที่ทำงานมา โดยแพทย์วินิจฉัยว่าอยู่ในอาการทนทุกข์ทรมานมากและไม่มีทางรักษา โดยเป็นโรคหัดขึ้นสมองและเข้าทำลายระบบประสาทไปจนถึงลำไส้  กินก็ไม่กิน นอนก็ไม่นอน

         

ก่อนจากกัน เธอทั้งสอง ออกตัวว่าพวกเธอไม่ใช่ “นางฟ้า” หรือ “แม่พระ” ใดๆ เพราะยังมีคนอีกมากที่ทำแบบเธอ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะ “คำว่ารัก”

         

นำเรื่องราวของคนทำงานเบื้องหลังโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมาเล่าให้ฟัง เพื่อหวังจะเกิดเป็นประกายความคิดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัดใน “เมืองตรัง” ของเรา ทุกวันนี้นอกจากงานส่วนรวมแล้ว “คุณเจ” ยังต้องดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ได้แก่ แมว 8 ตัว หมาอีก 2 ตัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์จรจัด ส่วน “คุณเจี๊ยบ” นั้นมีหมา 9 ตัว แมวอีก 2 ตัว ซึ่งไม่ง่ายเลย

         

หวังว่า “ความเมตตา” ต่อทุก “ชีวิต” ที่อยู่ร่วมโลกใบเดียวกันจะงอกเงยงดงามขึ้นบ้าง  อย่างน้อยก็เคสหมาหาบ้านล่าสุดของ “เจ้าไมเคิล” หมาพันธุ์อัลเซเชี่ยลจรจัด ซึ่งพวกเธอไปรับมาจากถนนวิเศษกุล เพราะ “เจ้าไมเคิล” เล่นเดินไปเดินมาตรงเส้นกลางถนนตั้งแต่หน้าวัดควนวิเศษถึงแยกสาริกาจนเกือบถูกรถชนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว

         

สำหรับ Help dogs & cats Trang ได้มีโครงการระดมทุนเพื่อทำงานเป็นระยะ ผู้มีจิตศรัทธาติดตามรายละเอียดได้ทางเพจ Help dogs & cats Trang เชื่อสิ! ว่า เรื่อง หมาๆแมวๆ มันทรงอานุภาพ...

................

 

ภาพน้องหมาที่บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียซึ่งมีคนเอามาทิ้งให้เป็นภาระกับทางเทศบาลนครตรังจำนวนมากเพราะคิดว่าภายในมีคอกพักพิงดูแล ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีทางเพียงพอ